5 สายพันธุ์อโวคาโด

อะโวคาโด เป็นผลไม้ที่นิยมรับประทานกันมากในแถบยุโรปและอเมริกา เพราะมีสารอาหาร และวิตามินที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพอย่างมาก อะโวคาโดมีหลายสายพันธ์ให้เลือกรัปทาน ซึ่งแต่ละสายพันธ์เนื้อสัมผัสและรสชาติก็จะแตกต่างกันไป โดยในประเทศไทย มีการปลูกอะโวคาโดหลากหลายสายพันธุ์

แฮส (Hass)

• เก็บเกี่ยวผล พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์
• ลักษณะผลรูปแพร์ ผิวขรุขระมาก เปลือกผลค่อนข้างหนา สีเขียวเข้ม เมื่อแก่อาจเปลี่ยนเป็นสีม่วงเข้ม
• เป็นพันธุ์การค้าอันดับ 1 ของโลกเนื่องจากมีรสชาติที่ดีที่สุด
• ในประเทศไทยสามารถปลูกได้ผลค่อนข้างน้อยเพราะค่อนข้างอ่อนแอต่อโรคและแมลง ทำให้มีราคาสูง



ปีเตอร์สัน (Peterson)

• เก็บเกี่ยผล มิถุนายน – กรกฎาคม
• ลักษณะผลกลม ผลที่แก่และขั้วผลเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นเขียวปนเหลือง ผิวบาง ไม่เหมาะที่จะส่งออก
• เป็นพันธุ์ที่เหมาะปลูกในประเทศไทย สามารถเก็บเกี่ยวได้เร็ว ผลดก ปลูกและดูแลรักษาได้ง่าย



บูช-7 (Booth 7)

• เก็บเกี่ยวผล ตุลาคม – ธันวาคม
• ลักษณะผลค่อนข้างกลม ผลขนาดกลาง ผิวผลขรุขระ สีเขียว เปลือกหนา เนื้อสีเหลืองอ่อน เมื่อสุกแก่จะมีรอยจุดสีน้ำตาล
• เหมาะปลูกในประเทศไทย ทนต่อโรค ดูแลรักษาง่าย ออกผลดก



บัคคาเนีย (Buccaneer)

• เก็บเกี่ยวผล กันยายน – ตุลาคม
• ลักษณะผลที่แก่จะมีนวลที่ผิว สีของผลจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองเล็กน้อยเกิดจุดประสีน้ำตาลบนผล เนื้อข้างในสีเขียวเหลือง



พิงค์เคอตัน (Pinkerton)

• เก็บเกี่ยวผล ตุลาคม – ธันวาคม
• ผลขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ผลค่อนข้างกลม ผิวขรุขระ ผลแก่เปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีเขียวเข้ม เนื้อสีเหลืองอมเขียว รสชาติดี



💡Tips : วิธีการบ่มอะโวคาโดให้สุก

เมื่อเก็บ อะโวคาโด จากต้นแล้ว จำเป็นต้องมีการบ่มเพื่อให้สุกก่อนรับประทาน โดยการทิ้งผลไว้ที่อุณหภูมิห้อง แต่หากต้องการเร่งให้ผลสุกเร็วขึ้น ให้ใส่ผลอะโวคาโดในถุงกระดาษสีน้ำตาล หรือห่อด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์ แล้วทิ้งไว้ที่อุณหภูมิห้อง ระยะเวลาขึ้นกับอะโวคาโดแต่ละผล วิธีดูว่าผลสุกหรือยัง ให้กดบริเวณขั้วผลเบา ๆ ถ้ากดได้แสดงว่าสุก เมื่อผลสุกแล้วให้นำไปแช่ตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา ไม่ควรนำผลดิบที่ยังไม่สุกแช่ตู้เย็นเพราะอาจทำให้ผลไม่สุกและเน่าไปเลยก็ได้

📣อย่าลืมให้กำลังใจเราด้วยการกด share และกดติดตาม Cookklick กันด้วยน้าา❤️