สวัสดีค่ะทุกคน วันนี้ชวนทุกคนมาอ่านหนังสือที่พล็อตเรื่องน่าสนใจเอามาก ๆ ผลงานปลายปากกานักเขียนในดวงใจของใครหลายคนอย่าง คุณกิตติศักดิ์ คงคา
สำหรับเล่มนี้ตาลอ่านจบไวมาก เพราะเนื้อหาชวนติดตามและสอดแทรกข้อคิดไว้ในเล่มมากมายเลยค่ะ ความยาวของหนังสือเพียง 176 หน้าเท่านั้นเอง เรียกได้ว่าอ่านเพลิน ๆ ตอนบ่าย รู้ตัวอีกที ก็อ่านจบแล้วค่ะ
ที่ตาลเลือกเล่มนี้มาเขียนคอนเทนท์เนื่องจาก ตาลเพิ่งสูญเสียเพื่อนในวัยเด็กที่จากไปอย่างกะทันหันในวัยที่ไม่มีใครคาดคิด จนตาลเองก็คิดว่า ชีวิตคนเรามันช่างไม่แน่นอน และแสนสั้นจริง ๆ ค่ะ ทุกคน
ความเชื่อเกี่ยวกับมิติคู่ขนานที่ปรากฏในหนังสือ
ตามที่ตาลเกริ่นไว้ตั้งแต่หัวเรื่องว่าหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวของการขอพรอะไรก็ได้หนึ่งอย่างเมื่อชีวิตของตัวละครเหลืออยู่ไม่เกิน 24 ชั่วโมงก่อนจะต้องลาโลกไป ซึ่งเมื่อพวกเขาก้าวเข้ามาใน "ร้านหนังสือ 24 ชั่วโมงสุดท้ายนี้" เหมือนการเจอเข้ากับอีกมิติหนึ่ง ซึ่งชีวิตในโลกยังคงดำเนินไป แต่ชีวิตในร้านหนังสือแห่งนี้ เหมือนเป็นอีกโลกหนึ่งที่ให้โอกาสตัวละครได้ทำตามใจปรารถนา แก้ไขสิ่งที่เคยผิดพลาด ก่อนจะต้องลาโลกในชีวิตจริงไป
พูดก็พูดเถอะค่ะ มันเหมือนการตอกย้ำให้คนอ่านได้คิดว่า ถ้าเป็นตัวเราล่ะ ชั่วขณะจิตสุดท้าย อยากจะทำอะไร เคยแพลนกันไหม ถ้าพระเจ้าเกิดใจดีและมีอะไรแบบนี้จริงๆ เราจะขออะไรกัน ?
คำโปรยปกหลัง
การเล่าเรื่องราวผ่านร้านหนังสือที่มีอยู่จริง ทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากยิ่งขึ้น
อีกหนึ่งกิมมิคที่ตาลประทับใจในหนังสือเล่มนี้คือ ทุกๆเรื่องภายในเล่ม ตั้งต้นด้วยร้านหนังสือที่มีอยู่จริง และบรรยายบรรยากาศและเอกลักษณ์ของแต่ละร้านอย่างสมจริง จนน่าไปตามรอย (นักอ่านบางท่านก็ตามรอยกันจริงจังเลยนะคะ)
บางตอนจากหนังสือ
ในตอนท้ายมีการทิ้งพิกัดร้านหนังสือแต่ละร้านไว้ให้ด้วยค่ะ
นอกจากเนื้อหาที่น่าสนใจแล้ว ท้ายเล่มยังมีการทิ้งลายแทงพิกัดร้านหนังสือ ทั้งเวลาเปิด ปิด ตำแหน่งที่ตั้งไว้ให้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวเลยค่ะ เชื่อว่าผู้เขียนคงตั้งใจให้ร้านหนังสือในเล่มมีคนรู้จักมากขึ้นด้วยค่ะ
"จงทำทุกวันให้ดีที่สุด"
นี่คงจะเป็นผลึกความคิดโดยรวมที่ตาลได้จากการอ่านหนังสืเล่มนี้ค่ะ และตระหนักรู้ได้ว่าชีวิตคนเรานั้นไม่ได้ยาวนานเลย คงจะดีกว่าถ้าเราจะทุกข์ให้น้อยลง และมองหาความสุขเล็ก ๆ และทำสิ่งดี ๆ ให้กันมากขึ้น เพื่อที่ว่าสุดท้ายแล้ว อาจไม่มีร้านหนังสือ 24 ชั่วโมงสุดท้ายในชีวิตก่อนความตายของเราอย่างในหนังสือ แต่เราก็จะไม่ต้องเสียใจหรือนึกอยากแก้ไขอะไรมากมาย หากว่าเราได้ทำเต็มที่ในทุก ๆ วัน เท่าที่เราจะทำได้แล้วค่ะ
พบกันใหม่คอนเทนท์หน้านะคะ :D
ตาลเอง, นักอ่านและนักรีวิวมือสมัครเล่นที่พร้อมเม้าท์มอยเรื่องหนังสือกับทุกคนเสมอค่ะ DM มาทักทายและอ่านคอนเทนท์อื่นๆได้ที่ IG: Todaythisyear